ในปัจจุบัน ธุรกิจฟิตเนสเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ผู้ประกอบการหลายคนต่างให้ความสนใจ เนื่องด้วยสถานการณ์เกี่ยวกับโรคระบาดและเทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรง ทำให้เกิดธุรกิจฟิตเนสหน้าใหม่มากมายเพิ่มขึ้นในตลาด อีกทั้งยังเพิ่มการแข่งขันที่สูงขึ้นอีกด้วย ในบทความนี้ เราอยากแนะนำวิธีในการปรับตัวและพัฒนาธุรกิจให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุดมากที่สุด
กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการฟิตเนสในปัจจุบันมีช่วงอายุที่ค่อนข้างหลากหลาย เราสามารถเห็นสมาชิกในฟิตเนสตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงผู้สูงอายุ ทั้งยังมีเหตุผลในการเข้าใช้บริการที่ต่างกันอีกด้วย เช่น ต้องการมีสุขภาพที่ดี ต้องการลดน้ำหนักหรือต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อ นอกเหนือไปจากความต้องการข้างต้น ทางฟิตเนสยังต้องคำนึงถึงปัญหาสุขภาพของสมาชิกแต่ละคน เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนารูปแบบคลาส การออกกำลังกายภายในฟิตเนส
ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ ทางฟิตเนสควรทำความเข้าใจลูกค้าให้ได้มากที่สุดและละเอียดที่สุด เพราะหากคุณเข้าใจกลุ่มลูกค้าของคุณอย่างแท้จริงแล้ว คุณจะสามารถพัฒนาฟิตเนสเพื่อให้ตอบโจทย์ได้ตรงจุดมากขึ้นเท่านั้น
วิธีง่ายๆที่สามารถช่วยเก็บข้อมูลจากกลุ่มลูกค้า
ทำแบบสอบถามกับสมาชิก เพื่อถามถึงความต้องการ ความพึงพอใจ ของการเข้าใช้บริการฟิตเนส หรือให้สมาชิกเสนอแนะสิ่งที่พวกเขาอยากจะให้เป็น
สอบถามข้อมูลเบื้องต้น ณ ตอนสมัครสมาชิก เช่นสอบถามเรื่องเป้าหมาย จุดประสงค์ที่เข้าใช้บริการฟิตเนสและปัญหาสุขภาพ เป็นต้น
เพียงเท่านี้ คุณก็จะเข้าใจความต้องการของกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ที่สำคัญข้อมูลเหล่านี้จะสามารถช่วยให้คุณต่อยอดธุรกิจได้อย่างแม่นยำ
การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จักได้ ส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการทำการตลาด ในปัจจุบันการทำการตลาดออนไลน์เป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นในการดำเนินธุรกิจ โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ธุรกิจหรือแบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักมากที่สุด โดยแพตฟอร์มที่ใช้ในการโปรโมทมีค่อนข้างหลากหลาย อาทิเช่น Facebook InstagramและTiktok เป็นต้น
ทั้งนี้ทางฟิตเนสอาจต้องเตรียมงบประมาณไว้สำหรับใช้ในการยิงโฆษณาหรือโปรโมทฟิตเนสของคุณผ่านแพลตฟอร์มเหล่านี้ โดยเลือกจุดประสงค์ในการทำโฆษณาครั้งนี้เป็นแบบ lead generation เพื่อให้มีคนติดต่อมาสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับฟิตเนส หรือหากคุณต้องการทำให้ฟิตเนสเป็นที่รู้จักก่อนก็สามารถเลือกจุดประสงค์เป็น awareness ได้เช่นกัน
Referral program เป็นอีกหนึ่งวิธีที่หลากหลายฟิตเนสเลือกใช้กัน โดยมีความหมายอีกนัยหนึ่งคือการชักชวนหรือบอกต่อกันแบบปากต่อปาก (word of mouth) โดยการทำแบบนี้ ผู้ที่เป็นกระบอกเสียงในครั้งนี้จะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนกลับไปด้วย เช่น ชักชวนเพื่อนมาสมัครฟิตเนส จะได้รับส่วนลดค่าฟิตเนส 50% ตลอดระยะเวลา 3 รอบบิล หรืออาจได้คอร์สฟรีอีก 1 เดือน เป็นต้น ดังนั้น หากฟิตเนสของคุณสามารถจัดโปรแกรม referral และมีผลตอบแทนที่น่าสนใจให้แก่สมาชิกคนปัจจุบัน ก็จะสามารถช่วยเพิ่มจำนวนสมาชิกใหม่ๆได้อีกทางหนึ่ง
การรักษาลูกค้าเก่าให้อยู่กับฟิตเนสของเราไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำ โดยสามารถเริ่มได้จากการให้บริการที่ดีและการดูแลอย่างใกล้ชิด มีความสนิทสนมและคอยซัพพอร์ทลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า สมาชิกของฟิตเนสได้รับการบริการอย่างดี นอกเหนือจากวิธีข้างต้นต้นแล้ว ทางฟิตเนสยังสามารถมอบสิทธิพิเศษให้แก่สมาชิกปัจจุบันได้อีกด้วย เช่น การเข้าคลาสฟรี 3 ครั้ง หรือส่วนลดในการต่ออายุสมาชิกครั้งถัดไป หากทำแบบนี้แล้ว สมาชิกจะมีความรู้สึกว่าตนเองได้รับการดูแลและเป็นลูกค้าคนสำคัญของทางฟิตเนส จึงทำให้มีโอกาสสูงขึ้นที่พวกเขาจะต่ออายุสมาชิก
ฟิตเนสหลากหลายเจ้าอาจจะคุ้นเคยกับคำว่า Customer Reletionship Management (CRM) กันมาบ้าง แต่ก็อาจมีฟิตเนสบางส่วนที่ไม่คุ้นเคยกับคำนี้ CRM คือระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขายและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในระยะยาวให้กับลูกค้า โดยระบบ CRM ที่ดีจะรวบรวมข้อมูลของลูกค้าไว้ตั้งแต่วันแรกที่ติดต่อเข้ามาจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นฝ่ายขายของทางฟิตเนสสามารถใช้ข้อมูลที่ลูกค้าเคยให้ไวอย่างเบอร์โทรหรืออีเมล ในการส่งข้อมูลข่าวสารหรือโปรโมชันของทางฟิตเนสให้แก่ลูกค้าได้ การทำแบบนี้ จะเป็นการติดต่อลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ลูกค้ายังคงจดจำฟิตเนสของเราได้ หากวันหนึ่งเขามีความต้องการใช้บริการฟิตเนส ก็จะมีโอกาสสูง ที่เขาจะติดต่อกลับมาหาฟิตเนสของคุณ
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หวังว่าคุณจะพอมีไอเดียในการนำข้อมูลที่เรามอบให้ไปต่อยอดธุรกิจฟิตเนสของคุณ ทั้งนี้ หากคุณมีความสนใจในเรื่องของระบบ CRM เพิ่มเติมสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่